LANGUAGE :
NEWS ข่าวสารวงการยานยนต์
ข่าวสารทั้งหมด
Aprilia Tuareg 660 สายลุยไซส์กลาง !!
 

 

 Aprilia Tuareg 660 สายลุยไซส์กลางจากค่ายสามตา !!

Aprilia Tuareg 660

   สำหรับเจ้า Aprilia Tuareg 660 นั้นเราเคยทำข่าวไปแล้วครั้งนึงตั้งแต่ตอนที่ยังไม่เผยโฉมคันจริง ๆ

ยังเป็นเพียงภาพคอมพิวเตอร์กราฟิกกันอยู่เลย และข้อมูลที่ได้มาตอนนั้นก็ยังไม่ละเอียดมากพอสำหรับแฟน ๆ

ที่จะตัดสินใจซื้อรถกันสักคันใช่มั้ยล่ะครับ มาคราวนี้ก็ได้โอกาสนำข้อมูลมานำเสนอกันอีกครั้ง

คราวนี้จะมีอะไรโดดเด่นและน่าสนใจแค่ไหน ไปตำกันได้เลย

Aprilia Tuareg 660

   เข้าเรื่องการออกแบบและดีไซน์กันก่อนเลย สำหรับการออกแบบนั้นเจ้าสามตาสายลุยคันนี้มีทีมออกแบบจากทาง

Piaggio Advance Design Center ที่ตั้งอยู่ที่คาลิฟอร์เนียออกแบบให้

โดยเน้นไปที่สไตล์ที่โดดเด่นและมีความลงตัวของเทคโนโลยีและเน้นการใช้งานได้จริง

แต่ก็มีในส่วนของกราฟิกและโลโก้ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Tuareg 600 Wind ปี 1988


   ชิลด์หน้าของรถทำจากวัสดุเพล็กซีกลาสขนาดใหญ่ปรับระดับได้ มีความแข็งแรงและให้ทัศนวิสัยที่ดี

ไฟหน้ายังคงเอกลักษณ์ตามแบบของทางแบรนด์นั่นคือเป็นไฟหน้าแบบ 3 โคม พร้อมไฟเดย์ไทม์รันนิงไลท์ในตัว

โดยไฟส่องสว่างทั้งหมดจะเป็นแบบ LED เต็มระบบ

Aprilia Tuareg 660 


    ตัวรถยังมีจุดที่ดูแปลกตาอีกหลายจุดที่ทำให้แตกต่างจากสายลุยทั่วไป ตรงที่ตัวรถด้านหน้าส่วนข้าง

จะใช้รูปแบบดับเบิลแฟริ่ง ซึ่งมีลักษณะเป็นแฟริ่งซ้อนกันสองชั้นทำหน้าที่ช่วยในเรื่องของแอโรไดนามิก

ซึ่งจะส่งผลดีต่อสมรรถนะของรถและความสบายเวลาขับขี่ไปพร้อมๆ กัน

 

   นอกจากนี้ตัวรถด้านท้ายเองก็ไม่มีแฟริ่งด้านล่างบริเวณใต้เบาะนั่ง  เผยให้เห็นซับเฟรมและเฟรมบาง

ส่วนให้กลิ่นอายคล้ายรถสไตล์เน็กเก็ด แต่ยังมีแฟริ่งที่สามารถถอดออกได้เวลาที่จะติดกล่องข้างสำหรับขนสัมภาระเพิ่มเติม


   ไม่เพียงแต่คำนึงถึงเรื่องความสวยงาม ทาง Aprilia ยังคำนึงถึงเรื่องความสบายและการขับขี่ที่ดี

โดยออกแบบรถให้มีการยศาสตร์ที่ดี ทางค่ายเลือกที่จะใช้เครื่องยนต์บล็อกนี้เพื่อให้ดีไซเนอร์นั้นสามารถที่จะออกแบบรถ

ที่มีระยะห่างจากตัวรถถึงพื้นที่เหมาะสมกับการขับขี่แบบสมบุกสมบัน ขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้ผู้ขับขี่ร่างเล็กลำบากเกินไป

ตัวรถถูกออกแบบให้มีซับเฟรมที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้เบาะนั่งนั้นต่ำ และยังออกแบบให้ท้ายเพรียวเพื่อให้ได้รถที่

เพรียวบางและกระชับ โดยเฉพาะส่วนที่ขาของผู้ขับขี่จะต้องสัมผัส โดยเฉพาะถังน้ำมันที่แม้ว่าจะใหญ่ถึง 18 ลิตร

ที่ช่วยให้วิ่งได้ไกลมากถึง 450 กม. แต่ก็ยังเพรียวบางสมส่วน

Aprilia Tuareg 660

   ตำแหน่งท่านั่งของผู้ขับขี่เองก็ออกแบบมาให้ขับขี่ได้สบายเวลาเดินทางไกล พักเท้าถูกวางให้ตำแหน่งการวางเท้า

ไปด้านหลังเพียงเล็กน้อย มีแฮนด์บาร์กว้างและยกสูงช่วยให้ควบคุมรถและจับอาการของรถได้ดี

เบาะนั่งเองก็มีความยาวและนั่งได้สบายทั้งคนขี่และคนซ้อนรวมไปถึงมือจับคนซ้อนเองก็มาให้โดยเป็นดีไซน์แบบบิลต์อิน

 

   ตัวรถบริเวณกลางลำตัวยังออกแบบมาให้มีความสลิมเพื่อให้ขับขี่ควบคุมในท่ายืนขี่ได้ดี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเวลา

ขับขี่บนทางฝุ่น ขณะเดียวกันตัวรถก็มีน้ำหนักเพียง 204 กก. ซึ่งสำหรับรถแอดเวนเจอร์พิกัดนี้ถือว่าน้ำหนักดีเลยทีเดียว

   ขุมพลังของรถนั้นจะเป็นเครื่องสองสูบเรียง 659 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่ผ่านมาตรฐาน Euro5 แล้ว

โดยมีการปรับอัตราทดเกียร์ใหม่ให้เข้ากับโมเดลนี้โดยตรง ไม่ใช่ยกมาวางเฉย ๆ มีการลดฟันของสเตอร์หน้าลงเหลือ 15 ฟัน

จากเดิม 17 ฟันจากพี่น้องสายสปอร์ต นอกจากนี้ยังมีการปรับอีกหลายจุดเพื่อให้เหมาะสมกับการเป็นแอดเวนเจอร์ไบค์มาก

อาทิ ปรับการทำงานของวาล์ว ปรับเปลี่ยนท่อไอดีและเคสของกรองอากาศ รวมถึงระบบไอเสียใหม่

เพื่อให้ได้แรงบิดที่ดีขึ้นในรอบต่ำและรอบกลาง

 

   ผลที่ได้คือเครื่องยนต์มีแรงม้าสูงสุดที่ 80 แรงม้าที่ 9,250 รอบและแรงบิดสูงสุดที่ 70 นิวัตนเมตรที่ 6,500 รอบ

ซึ่งปกติจะต้องเป็น 8,500 รอบ และมีแรงบิดมากถึง 75% ตั้งแต่ในรอบต่ำเพียง 3,000 รอบเท่านั้น

   ช่วงล่างของรถนั้นก็ถือว่าเป็นการยกระดับมาตรฐานของแอดเวนเจอร์ไบค์ในระดับกลาง

หลายคนอาจจะคิดว่าใช้พื้นฐานเดียวกันกับ RS660 หรือ Tuono แต่จริง ๆ แล้วแชสซีนั้นออกแบบใหม่โดยมุ่งให้

ใช้ในรูปแบบของเฮฟวีดิวตี้หรือใช้งานหนัก สำหรับขับขี่แบบสมบุกสมบันนั่นเอง

ตัวเฟรมนั้นใช้แบบท่อเหล็กความแข็งแรงสูงและแผ่นเพลตเสริมความแข็งแรง

เพื่อให้ตัวรถแข็งแรงซับเฟรมเองก็เชื่อมเข้ากับเมนเฟรมทำให้รับน้ำหนักได้มากถึง 210 กก.

ทำให้แทบจะไม่เกี่ยงงอนเรื่องสัมภาระและคนซ้อน

   ระบบกันสะเทือนนั้นจะเลือกใช้ของ KYB โดยด้านหน้าจะเป็นโช้คหัวกลับขนาด 43 ม.ม.

ปรับแต่งได้เต็มระบบและระยะยุบมากถึง 240 ม.ม. ด้านหลังจะเป็นโช้คเดี่ยวทำงานร่วมกับสวิงอาร์มและกระเดื่อง

โดยสามารถปรับแต่งได้เต็มระบบเช่นกัน ระยะยุบเองก็ 240 ม.ม.เท่ากันกับด้านหน้า

เรียกว่าตอบโจทย์การขับขี่ในแบบสมบุกสมบันได้ดี รวมถึงสามารถปรับเซ็ตให้เข้ากับโหลดต่าง ๆ ได้หลากหลายอีกด้วย

   สำหรับระบบเบรกนั้นจะเลือกใช้คาลิเปอร์เบรกของ Brembo พร้อมสายเบรกแบบถัก  

โดยด้านหน้าจะเป็นดิสก์เบรกคู่ขนาด 300 ม.ม. และคาลิเปอร์เบรกแบบแอกเซียล 4 ลูกสูบ  ขณะที่ด้านหลัง

จะเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 260 ม.ม. พร้อมคาลิเปอร์แบบลูกสูบเดี่ยว ซึ่งแน่นอนว่าเพียงพอกับการขับขี่ในสไตล์แอดเวนเจอร์

Aprilia Tuareg 660

   ขณะที่ล้อนั้นจะเป็นล้อหน้าซี่ลวดแบบทูบเลสขนาด 21 นิ้วและล้อหลัง 18 นิ้วตามลำดับ

ซึ่งทางค่ายให้ยางแบบกึ่งจากแบรนด์ชั้นนำอย่าง Pirelli Scorpion Rally STR มาซึ่งใช้งานได้ดีทั้งทางฝุ่นและกระทั่งทางดำ

ก็เรียกว่าสามารถใช้งานในรูปแบบแอดเวนเจอร์ได้ดีอย่างแน่นอน

Aprilia Tuareg 660 

   มาถึงส่วนของระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ กันบ้าง ซึ่งทางค่ายจัดมาเป็นชุดกับระบบ APRC ซึ่งย่อมาจาก

Aprilia Performance Ride Control ก็เต็มไปด้วยระบบต่าง ๆ มากมาย โดยจะเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับปรุงมาเพื่อโมเดล

นี้โดยเฉพาะ ได้แก่ ระบบแทร็คชันคอนโทรล 4 ระดับและปิดได้ ระบบครูซคอนโทรล ระบบควบคุมเอ็นจิ้นเบรก 3 ระดับ

ระบบคันเร่งไฟฟ้าและเอ็นจิ้นแม็พอีก 3 รูปแบบ โหมดการขับขี่ 4 โหมด สำหรับการขับขี่ในรูปแบบต่าง ๆ กัน



   ตัวรถเลือกใช้หน้าจอแสดงผลสีแบบ TFT ขนาด 5 นิ้ว พร้อมเซ็นเซอร์ปรับความสว่างหน้าจอตามสภาพแสง

แวดล้อมอัตโนมัติ ทั้งนี้หากต้องการใช้งานระบบมัลติมีเดียหรือเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน อันนี้ต้องติดตั้งเพิ่มเติม

ไม่ได้เป็นพื้นฐานติดรถมาแต่แรก


Aprilia Tuareg 660 Aprilia Tuareg 660 


   สุดท้ายนี้ตัวรถจะวางจำหน่าย 3 เฉดสีด้วยกัน ได้แก่ สีเหลือง Acid Gold, สีแดงดำ Martian Red และสีน้ำเงิน

ขาวและแดง Indaco Tagelmust ซึ่งจะเป็นสีให้เกียรติต้นกำเนิดของตระกูล Tuareg


   ส่วนในประเทศไทยนั้นจะมีมาจำหน่ายหรือไม่ ในความเห็นผมคิดว่าเป็นไปได้ยากเลยทีเดียวสำหรับแบรนด์นี้

ถ้านำเข้ามาก็อาจจะมีปัญหาเรื่องราคาที่น่าจะสูง และอาจจะทำยอดขายได้ไม่ดีนัก

อย่างไรก็ดีก็ถือว่าเป็นโมเดลที่น่าสนใจและเป็นคู่แข่งตัวเอ้ของ Tenere 700 เป็นแน่แท้

ซึ่งทางยามาฮ่าก็ประสบความสำเร็จกับโมเดลนี้ไปแล้ว ก็ต้องมาดูกันว่าหลังจากยุโรปวางขายแล้วยอดขายจะสู้เจ้า T7 ?


ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : Aprilia Tuareg 660 สายลุยไซส์กลางจากค่ายสามตา - SuperBike

12 มกราคม 2565
*** สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อเบอร์ 02-538-7638, 02-538-3529 *** เวลาทำการ : จันทร์ - เสาร์ 08:30 - 19:00 น.