LANGUAGE :
NEWS ข่าวสารวงการยานยนต์
ข่าวสารทั้งหมด
10 ที่เที่ยวอุทยานแห่งชาติ !!
 

 

 10 ที่เที่ยวอุทยานแห่งชาติใกล้กรุงเทพฯ เปลี่ยนที่นอนวิวล้อมด้วยทิวเขา


อุทยานแห่งชาติ เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมาก ๆ เพราะความอุดมสมบูรณ์ วิวสวยน่าเที่ยว
 
แถมมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำและดูแล สะดวกสุด ๆ จะไปเที่ยวแบบแคมปิง นอนสัมผัสอากาศเย็น
 
ใกล้ชิดธรรมชาติ หรือจะนอนบ้านพักอุทยานก็ดีไปอีกแบบ บอกเลยว่าสายเที่ยวป่า ชมธรรมชาติอย่างเรา ๆ
 
ต้องห้ามพลาด! กับที่เที่ยวอุทยานแห่งชาติใกล้กรุงเทพฯ ที่ไปกันได้ง่าย ๆ เดินทางไม่นาน แถมได้เที่ยวแบบเต็มอิ่มกับธรรมชาติ
 
เปิดเต็นท์มาเจอแสงแดดอ่อน ๆ ทิวเขาสวย ๆ ฟินสุด ๆ ไปเลย มีวันหยุดแค่ 2 วันก็ยังเที่ยวได้ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปเที่ยวกันเลย

 
การลงทะเบียนสำหรับมือใหม่
 
เราขอสรุปขั้นตอนการลงทะเบียนง่าย ๆ เป็นคู่มือเที่ยวอุทยานสั้น ๆ แล้วกันนะ สาเหตุที่ต้องลงทะเบียนเข้าอุทยาน
 
เพราะช่วง New Normal แบบนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการจำกัดจำนวนการเที่ยวชมอุทยานต่อวัน ดังนั้นต้องจองล่วงหน้านะทุกคน

 
 
การจองที่พักของอุทยาน
 
สำหรับการจองที่พัก ไม่ยาก เพราะมีให้เลือกทั้งบ้านพักอุทยาน หรือใครอยากใกล้ชิดธรรมชาติ ก็แนะนำให้จองเต็นท์ได้
 
มีหลายขนาดให้เลือก หรือใครอยากเอาเต็นท์มาเองก็ได้
 


1.อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย
 

ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย หมู่ 9 บ้านแก่งหลุ ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี

เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 08.00 น. - 17.00 น.

อัตราค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท จอดรถยนต์ 30 บาท
 
“อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย” เป็นอุทยานที่มีน้ำตกเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ มีน้ำตกจำนวน 7 ชั้นด้วยกัน
 
ใครที่อยากแช่น้ำฟิน ๆ ท่ามกลางพันธุ์ไม้นานาชนิด หรือจะแคมปิง นอนกางเต็นท์ใกล้ชิดธรรมชาติก็ได้เช่นกัน
 
ที่นี่มีลานกางเต็นท์ที่ชื่อว่าลานนับดาว ไว้บริการนักท่องเที่ยว ใครที่อยากมาเที่ยวต้องรีบจองล่วงหน้านะ
 
ที่กางเต็นท์อาจเต็มก่อนและต้องเปลี่ยนไปนอนบ้างพักแทน ตอนนี้น้ำตกเจ็ดสาวน้อยสามารถลงเล่นได้แล้ว
 
แต่ยังอยู่มาตรการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19)
 
ดังนั้นการลงเล่นน้ำตกจะจำกัดจำนวนผู้เล่น และเปิดให้เล่นแค่เฉพาะบางจุดเท่านั้นค่ะ โดยจะแบ่งเวลาเล่นเป็นรอบ ๆ
 
และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ใครที่มองหาที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ กางเต็นท์ก็ได้ เล่นน้ำก็ดี ต้องขอแนะนำที่นี่เลย

2.อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น
 
 
ที่ตั้ง : 53 หมู่ 1 ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี

เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 08.00 น. - 17.30 น.

อัตราค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท จอดรถยนต์ 30 บาท
 
“อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น” เป็นที่เที่ยวอุทยานแห่งชาติใกล้กรุงเทพฯ อีกหนึ่งที่ที่น่าไปมาก ๆ
 
ขับรถจากกรุงเทพฯไปแค่ชั่วโมงนิด ๆ ก็ถึงแล้ว จะเป็นทริปไปเช้าเย็นกลับ หรือจะไปตั้งแคมป์ริมอ่างเก็บน้ำก็ดีมาก ๆ
 
เพราะที่นี่มี “อ่างเก็บน้ำเขารวก” เป็นอ่างเก็บน้ำที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก ๆ มีต้นไม้ใหญ่และทิวเขาเรียงราย
 
ให้ทุกคนที่มาแคมปิงได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะยามเช้ากับแสงแดดอ่อน ๆ หรือจะยามเย็นพระอาทิตย์ตกก็สวยงามไม่แพ้กัน
 
และใครที่ชอบการเดินป่า ศึกษาเส้นทางธรรมชาติที่นี่ก็มีให้เดินเที่ยวชมเช่นกันค่ะ สามารถเดินชมน้ำตกสามหลั่นไฮไลต์ของที่นี่ได้
 
ห่างจากตัวอุทยานไปเพียง 400 เมตรเท่านั้นเอง ระหว่างเส้นทางนักท่องเที่ยวจะได้เที่ยวชมน้ำตก ลำธาร ต้นไม้นานาพันธุ์
 
นกและแมลงชนิดต่าง ๆ รวมทั้งน้ำตกสามหลั่นที่มีชั้นลดหลั่นกันลงมาถึง 3 ชั้นด้วยกัน เรียกได้ว่าไปทริปเดียวแต่เที่ยวได้คุ้มมาก ๆ

3.อุทยานแห่งชาติพุเตย
 
 
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติพุเตย ป.ท.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
 
เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 08.00 น. - 18.00 น.
 
อัตราค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท จอดรถยนต์ 30 บาท
 
ใครที่มองหาที่เที่ยวธรรมชาติสุด ๆ หนีความวุ่นวายจากเมืองกรุงสู่ป่าเขา นอนกลางดิน กินกลางทราย ดึก ๆ
 
ก็ดูดาวล่าทางช้างเผือก ขอแนะนำที่นี่เลย “อุทยานแห่งชาติพุเตย” เป็นอุทยานแห่งชาติที่สัญญาณมือถือน้อยมาก
 
แต่บอกเลยค่ะว่าคุ้มค่ากับการไป เพราะการตั้งแคมป์กลางหุบเขาและลมหนาว แสงจากไฟฟ้ามีน้อย
 
แต่แสงดาวจากธรรมชาตินั้นสว่างและสวยงามสุด ๆ ไปเลย ที่นี่มีที่เที่ยวทางธรรมชาติหลากหลายมาก ๆ ค่ะ ทั้ง
 
“ยอดเขาเทวดา” “น้ำตกตะเพินคี่” “ศาลเลาด้าห์” หรือ “ป่าสนสองใบ” ขอบอกเลยว่าแต่ละที่การันตีความสวยงามได้เลย
 
เหมาะกับการเดินทางไปแคมปิงมาก ๆ สำหรับการขึ้นไปกางเต็นท์จะต้องจ้างรถ เนื่องจากทางขึ้นไปค่อนข้างอันตราย
 
ต้องอาศัยผู้ชำนาญเส้นทาง โดยสามารถติดต่อได้ที่ทำการอุทยานค่ะ ราคา 1,200 บาท ขนสัมภาระให้ถึงที่ 

4.อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
 
 
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติเขาแหลม 339 หมู่ 4 ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 09.00 น. - 16.00 น.

อัตราค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท จอดรถยนต์ 30 บาท
 
ใครที่อยากจะไปพิชิตยอดเขาสูงอย่าง “เขาสันหนอกวัว” ก็ต้องที่นี่เลย “อุทยานแห่งชาติเขาแหลม” คนรักภูเขาทะเลหมอก
 
หรือวิวพระอาทิตย์ตกยามเช้าก็ต้องห้ามพลาด เพราะที่นี่มีลานกางเต็นท์ริม “อ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม”
 
ที่มีวิวและบรรยากาศสวยงามมาก ๆ ไม่แพ้อ่างเก็บน้ำที่ไหนเลย ส่วนใครที่รักการชมพระอาทิตย์ตก จิบเครื่องดื่มเย็น ๆ
 
พร้อมนั่งชิลชมวิวทิวทัศน์ ก็ต้องขอแนะนำ “จุดชมทิวทัศน์ป้อมปี่” เลยค่ะ เป็นที่เที่ยวชมพระอาทิตย์ตกที่เรียกได้ว่าสวยมาก ๆ
 
อีกที่เลย ใครที่ไม่ได้พกเต็นท์มาแคมปิง ที่นี่ก็มีบ้านพักอุทยานไว้คอยบริการด้วยนะ
 
เที่ยวอุทยานเสร็จแล้วไปเที่ยวสะพานมอญ สังขละบุรีต่อได้เลย

5.อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
 
 
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ตู้ ปณ.18 อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 08.30 น. - 16.30 น.

อัตราค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท จอดรถยนต์ 30 บาท
 
“อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ” เป็นอีกหนึ่งอุทยานชื่อดัง ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เพราะ “เขาช้างเผือก”
 
ป็นเขายอดฮิตที่ขึ้นชื่อในเรื่องจองยากและนักท่องเที่ยวอยากไปเดินเขามากที่สุดอีกที่
 
ใครที่อยากไปต้องคอยติดตามข่าวสารจากอุทยานซึ่งเปิดให้ขึ้นแค่บางช่วงเวลาเท่านั้น
 
และในปีนี้ กำหนดเปิดตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2564
 
(โดยเริ่มเปิดรับจองตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.) และรู้หรือไม่ว่านอกจากเขาช้างเผือกแล้ว
 
ยังมีสถานที่อื่น ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมในอุทยานอีกด้วย ใครที่เป็นสายแคมปิง อยากกางเต็นท์ดูวิวทิวเขาสวย ๆ
 
“จุดชมวิวเนินกูดดอย-เนินช้างเผือก” เป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกที่เลยทีเดียวค่ะ เพราะสามารถมองเห็นวิวได้รอบ และรอบ ๆ
 
ยังมีไม้ประจำถิ่นหรือไม้หายากให้ได้ชมกันอีกด้วย หรือใครอยากผ่อนคลายด้วยสายน้ำอย่างน้ำตก ก็แวะไปที่
 
“น้ำตกจ๊อกกระดิ่น” ได้ค่ะ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น มีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร จะมีน้ำไหลสวยงามมากในฤดูฝน
 
และในหน้าแล้งก็ยังคงมีน้ำตกไหลอยู่ตลอด เรียกได้ว่ามาแค่ที่เดียวแต่ได้เที่ยวครบมาก ๆ

6.อุทยานแห่งชาติเอราวัณ
 
 
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติเอราวัณ หมู่ 4 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี

เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 07.00 น. - 16.30 น.

อัตราค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท จอดรถยนต์ 30 บาท
 
ใครที่อยากล่าน้ำตกสวย ๆ กับบรรยากาศเย็น ๆ สดชื่น ก็แนะนำที่นี่เลยค่ะ “อุทยานแห่งชาติเอราวัณ”
 
ซึ่งที่นี่นอกจากจะมีน้ำตกที่สวยงามเหมาะกับการไปเที่ยวถ่ายรูป แช่น้ำเย็น ๆ ชื่นใจแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ
 
อีกมากมายที่น่าสนใจมาก ๆ เช่น ถ้ำพระธาตุ ถ้ำวังบาดาล แม่น้ำแควใหญ่ซึ่งใกล้ ๆ กันมีลานกางเต็นท์ไว้สำหรับสายแคมป์
 
ได้กางเต็นท์นอนใกล้ชิดธรรมชาติ รับอากาศสดชื่นยามเช้าอีกด้วย หรือใครที่ชอบเดินป่าเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ
 
ที่นี่ก็มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าดิบแล้งม่องไล่ เส้นทางศึกษาธรรมชาติเอราวัณ (ป่าไผ่)
 
ละเส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาหินล้านปีให้ทุกคนได้เที่ยวชมอีกด้วยค่ะ

7.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
 
 
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 06.00 น. - 18.00 น.

อัตราค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 40 บาท จอดรถยนต์ 30 บาท
 
อุทยานแห่งชาติยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวชอบไปตั้งแคมป์ กางเต็นท์สัมผัสบรรยากาศดีริมอ่างเก็บน้ำ ก็คือ
 
“อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน” ภายในอุทยานมีจุดชมวิว และที่เที่ยวอีกมากมายเนื่องจาก
 
เป็นอุทยานที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งสถานที่ยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวชอบไปตั้งแคมป์กันคือ
 
อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน บรรยากาศที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เป็นวิวที่สวยงามมาก
 
นอกจากนี้ยังมีที่เที่ยวอื่น ๆ เช่น น้ำตกป่าละอู ทะเลหมอก กม.36 โป่งลึก-บางกลอย บ้านกร่าง น้ำตกทอทิพย์
 
และเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งใครที่อยากชมวิวทะเลหมอกสวย ๆ ยามเช้าก็ต้องมาที่เขาพะเนินทุ่งเลยค่ะ บรรยากาศดีมาก
 
สามารถติดตามข่าวสารการเปิดให้ชมพื้นที่แต่ละจุดผ่านแฟนเพจของอุทยาน
 
และจองคิวเที่ยวอุทยานตามมาตรการการท่องเที่ยวแบบ New Normal ได้เลย
 
8.อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว
 
 
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว 41 หมู่ 12 ต.พลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี

เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 08.30 น. - 16.30 น.

อัตราค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท จอดรถยนต์ 30 บาท
 
“อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว” อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีพื้นที่ครอบคลุม 4 อำเภอของจังหวัดจันทบุรี ได้แก่ อำเภอขลุง
 
อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอมะขาม และอำเภอเมืองจันทบุรี มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย และที่เที่ยวยอดนิยมคือ “น้ำตกพลิ้ว”
 
เพราะจุดเด่นของที่นี่คือ ปลาพลวง ที่แหวกว่ายในแอ่งน้ำตก ปลาพลวงที่มีจำนวนมากจึงเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของที่นี่เลยทีเดียว
 
นอกจากนี้ ยังมีจุดชมทิวทัศน์ น้ำตกคลองนารายณ์ น้ำตกตรอกนอง น้ำตกพลิ้ว น้ำตกมะกอก สุนันทานุสาวรีย์ จุลศิรจุมพฏเจดีย์
 
เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกพลิ้ว อ่างเก็บน้ำกงษีไร่ อ่างเก็บน้ำห้วยตาโบ และ “จุลศิรจุมพฏเจดีย์”
 
เจดีย์เก่าแก่ที่มีความงดงามท่ามกลางธรรมชาติ กลายเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินถ่ายรูปยอดฮิต สำหรับใครที่อยากนอนกางเต็นท์
 
ที่นี่ก็มีจุดกางเต็นท์และบ้านพักอุทยานให้ทุกคนได้เข้าพักอีกด้วย

9.อุทยานแห่งชาติทับลาน
 
 
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติทับลาน 520 ม.1 ถนนสาย 304 กบินทร์บุรี - ปักธงชัย ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี

เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 08.00 น. - 18.00 น.

อัตราค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท จอดรถยนต์ 30 บาท
 
“อุทยานแห่งชาติทับลาน” เป็นอีกอุทยานแห่งชาติที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มีสถานที่ท่องเที่ยวภายในอุทยานมากมาย
 
เช่น ผาเก็บตะวัน น้ำตกสวนห้อม หาดชมตะวัน หาดจอมทอง ป่าลาน น้ำตกม่านฟ้า เขื่อนลำมูลบน เขามะค่า
 
น้ำตกบ่อทอง และอ่างเก็บน้ำทับลาน มีลานกางเต็นท์ที่มองเห็นวิวได้รอบ
 
มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติมากมายให้นักท่องเที่ยวสายเดินป่าได้เดินชมความงดงามของธรรมชาติ
 
ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศดี ๆ หรือนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกสวย ๆ ที่นี่ก็เป็นอีกที่เที่ยวหนึ่งที่น่าไปมาก ๆ 

10.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
 
 
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตู้ ปณ.9 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 06.00 น. - 18.00 น.

อัตราค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท จอดรถยนต์ 30 บาท
 
“อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” เป็นที่เที่ยวอุทยานชื่อดังใกล้กรุงเทพฯ ซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีอากาศเย็นน่าเที่ยว
 
ใครที่ชอบส่องสัตว์ หรือดูพันธุ์ไม้สวยงามแปลกตา ที่เขาใหญ่ก็เป็นอีกที่ที่น่าสนใจค่ะ จะกางเต็นท์นอน
 
หรือเดินป่าชมเส้นทางธรรมชาติก็ได้ มีจุดชมวิวทิวทัศน์มากมาย เช่น จุดชมทิวทัศน์ผาตรอมใจ และผาเดียวดาย
 
หรือใครที่ชอบเที่ยวน้ำตกที่นี่ก็มี น้ำตกเหวนรก และน้ำตกผากล้วยไม้ นอกจากนี้ยังมีที่เที่ยวอื่น ๆ ที่สวยงามอีกมาก
 
ใครที่มองหาที่เที่ยวอุทยานใกล้กรุงเทพฯอยู่ แนะนำอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เลยค่ะ รับรองไม่มีผิดหวัง
 
 

เป็นยังไงบ้างคะ กับ 10 ที่เที่ยวอุทยานแห่งชาติใกล้กรุงเทพฯ เปลี่ยนที่นอนวิวล้อมด้วยทิวเขา น่าเที่ยวมาก ๆ
 
เลยใช่ไหมคะ บอกเลยว่าที่เที่ยวทั้งหมดนี้เดินทางง่าย ใกล้กรุงเทพฯ ถึงมีวันหยุดแค่ 2 วันก็ไปเที่ยวได้ไม่ง้อวันลาเลย
 
ส่วนจะจัดทริปกันแบบไหน ก็แล้วแต่สไตล์ของทุกคนเลย รับรองเลยว่าได้นอนพักผ่อนเต็มอิ่มท่ามกลางธรรมชาติและทิวเขาแน่นอน
 
ใครที่คิดว่าอยากเห็นทะเลหมอกหรือพระอาทิตย์ตกสวย ๆ ต้องไปที่ไกล ๆ เท่านั้น ก็ขอให้ลบความคิดนั้นทิ้งได้เลย
 
บอกเลยว่าที่เที่ยวทั้งหมดนี้รับประกันความประทับใจแน่นอน และใครอยากหาที่เที่ยวสวย ๆ ทริปเที่ยวดี ๆ 
 
 

 ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.wongnai.com/trips/trip-nationalpark-near-bangkok

6 พฤศจิกายน 2564
*** สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อเบอร์ 02-538-7638, 02-538-3529 *** เวลาทำการ : จันทร์ - เสาร์ 08:30 - 19:00 น.